พระโคนสมอ พิมพ์พระนาคปรก มีพุทธคุณเด่นในด้าน คงกระพัน มหาอุด และนิรันตราย ในสมัยอยุธยาเวลาออกศึกจะเอาพระโคนสมอคล้องคอให้ม้าศึกและช้างศึกไว้ เมื่อปะทะกันก็จะแคล้วคลาดจาก คมหอกคมดาบของศัตรู แม้กระทั่งกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ขณะที่กลับจากการศึกษาวิชาทหารเรือที่ประเทศอังกฤษใหม่ๆ พระองค์ทรงสนพระทัยในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องและเครื่องราง ทรงให้ทหารได้นำพระวังหน้ามาทดสอบโดยยิงด้วยปืนไฟที่ทันสมัยในยุคนั้น ซึ่งปรากฏว่าปืนยิงไม่ออกหลายนัด ซึ่งพระวังหน้าดังกล่าวนี้ก็คือพระโคนสมอนั่นเอง และนอกจากนี้ตอนสงครามอินโดจีนทหารไทยได้พกพระโคนสมอติดตัวเป็นขวัญกำลังใจ และมีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขวัญว่า ข้าศึกไม่สามารถทำอะไรทหารไทยได้ ยิงไม่เข้าเหมือนทหารผีนั่นเอง
พระโคนสมอสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ถึงตอนนี้อายุก็ 300 กว่าปี ถือเป็นวัตถุโบราณที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่มีความเก่าแก่ควรแก่การรักษาให้เป็นมรดกลูกหลาน การพบพระโคนสมอดูเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อมีคำสั่งให้เจ้าพระยาวงศพิพัฒน์ (ม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา) นำช่างมาซ่อมแซมพระราชวังบวรสถานมงคลหรือเรียกกันว่าวังหน้า ได้พบพระเครื่องซ่อนอยู่เป็นจำนวนมากไม่ทราบเป็นพระชื่อว่าอะไรและนำออกมาพักไว้ ณ.โคนต้นสมอ ซึ่งอยู่ในพระราชวัง เมื่อมีคนกล่าวถึงพระชุดนี้จะบอกว่าพระที่อยู่โคนต้นสมอในวัง เลยเป็นที่มาการเรียกชื่อพระโคนสมอตั้งแต่นั้นมา เมื่อค้นประวัติผู้ที่นำพระโคนสมอมาไว้ ณ.พระราชวังบวร คือสมเด็จพระบวรเจ้ามหาสุรสีหนาท กรมพระราชวังบวรในรัชกาลที่ 1 ได้นำพระโคนสมอมาจากวัดเก่าแห่งหนึ่งในอยุธยา ซึ่งคราวนั้นพระองค์ได้เสด็จไปปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณดาราราม เมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ฯ เมื่อได้รับมอบก็ได้บรรจุเอาไว้บนเพดานท้องพระโรง พระที่นั่งศิวโมกข์ พระที่นั้งพุทไธสวรรย์ หรือที่เรียกกันว่า พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ในพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อมีผู้ที่ได้นำไปบูชาได้ประสบการณ์ทางโขคลาภ ถุกหวยรางวัลที่ 1 จึงได้มีการเสาะหาเช่าบุชาทำให้พระโคนสมอในปี 2475 เช่ากันในราคาถึง 100-150 บาทซึ่งสูงมาก พุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ดีทางโชคลาภอย่างเดียว ดีทางด้านคงกระพันชาตรี มหาอำนาจและแคล้วคลาด เราจะเห็นได้จากนักเลงโบราณแขวนพระโคนสมอติดตัวอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่าพุทธคุณทางคงกระพันชาตรีเป็นเลิศอย่างแน่นอน ด้วยประสบการณ์การรับเข่า เช่าพระโคนสมอได้ทั้งพุทธศิลปและพุทธคุณครับ
|