พระยอดธงศิลปอยุธยา เนื้อเงิน คราบเบ้ากรุเดิมๆเนื้อเงินเหี่ยวย่นธรรมชาติ

“พระยอดธง” นับว่าเป็นพระเครื่องโบราณ ที่ได้รับความนิยมมาก จากบรรดานักสะสมพระเครื่อง สืบเนื่องมาจากเป็นพระเครื่อง ที่ผ่านศึกสงครามมาแต่ครั้งโบราณกาล ในสมัยโบราณ ก่อนจะออกรบ บรรดาไพร่พลจะไปเสาะแสวงหาวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง หรือเครื่องรางของขลังต่างๆ มาพกติดตัว เพื่อให้ปลอดภยันตรายจากข้าศึก และเดินทางกลับบ้านกลับเมืองอย่างปลอดภัย ในส่วนของกองทัพสมัยนั้น ก็มีการเสริมสิริมงคลแก่กองทัพเช่นเดียวกัน โดยได้มีการอาราธนาพระพุทธรูป ลอยองค์ 1 องค์ มาเสียบไว้ที่ส่วนยอดของธงประจำทัพ ในแต่ละทัพ ซึ่งเรานิยมเรียกพระเครื่องชนิดนี้ว่า“พระยอดธง” พระยอดธงส่วนใหญ่ถูกพบที่จังหวัดอยุธยา โดยพบแทบทุกกรุในจังหวัด และยังพบในจังหวัดใกล้เคียง เช่น ปทุมธานี แต่พบมากที่สุดคือที่“กรุวัดราชบูรณะ อยุธยา” ลักษณะ เป็นพระเครื่องแบบลอยองค์ แต่จะไม่มีลักษณะเฉพาะเหมือนพระเครื่ององค์อื่นๆ ที่ใช้แม่พิมพ์เดียวกันในการสร้าง ทำให้ลักษณะของพระเครื่องจะออกมาเหมือนกันทุกองค์ แต่สำหรับ”พระยอดธง”จะมีการสร้างหลายปาง ทั้งพระพุทธรูปนั่ง พระพุทธรูปยืน ปางประทานพร ปางสมาธิ ปางมารวิชัย พิมพ์มาลัย ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีการสร้างออกมาหลายเนื้อ ทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนาค เนื้อสัมฤทธิ์ และเนื้อชิน ซึ่งสันนิษฐานกันว่า ผู้นำของแต่ละเหล่าทัพ จะสร้าง”พระยอดธง”ตามแต่ใจของแต่ละคน ว่าเลื่อมใสในพระพุทธรูปปางไหน ก็จะสร้างพระเครื่องตามแบบพระพุทธรูปปางนั้นๆ และอาราธนาขึ้นบนยอดธง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่กองทัพและไพร่พลของตน จุดสังเกตสำคัญที่จะทำให้เราทราบว่าพระเครื่ององค์ไหนเป็น “พระยอดธง” ก็คือ ที่บริเวณพระที่นั่ง (ก้น) ขององค์พระสำหรับพระพุทธรูปนั่ง และที่พระบาทขององค์พระสำหรับพระพุทธรูปยืน จะมี “เดือย” ยื่นออกมาเพื่อใช้เสียบติดกับยอดธง สืบเนื่องจากเป็นพระเครื่องเก่าแก่ที่ผ่านการศึกสงครามมาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน ทำให้รู้ถึงพุทธคุณอันมีมากล้นเหลือ ในการคุ้มครองกองทัพทั้งกองทัพ ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ จึงเชื่อกันว่า“พระยอดธง” เป็นพระเครื่องมีความเข้มขลังมากนั่นเอง จึงทำให้บรรดานักสะสมพระเครื่องในปัจจุบัน ให้ความสนใจและเสาะแสวงหามาครอบครอง “พระยอดธง”ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดคือ “พระยอดธง กรุวัดไก่เตี้ย จ.ปทุมธานี” เพราะความเป็นเลิศของพุทธคุณ ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ และเป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมา