แมลงภู่ ชาวล้านนาและชาวไทยใหญ่เรียกขานกันว่า”แมลงปู๊ หรือ แมลงบู๊”มีถิ่นกำเนิดมาจากทางพม่าและทางไทยใหญ่และเข้ามาสู่ดินแดนล้านนา
แมลงภู่ เป็นเครื่องรางที่เรืองอิทธิฤทธิ์ กษัตริย์พม่า คหบดี จนถึงสามัญชน มีติดตัวกันแทบทุกคน!!!
การสร้างแมลงภู่นั้นจะมีการสร้างจากไม้และงา (ไม้สำหรับทหาร และ สามัญชน ทั่วไป
ส่วนเนื้องาช้าง สร้างน้อย สำหรับชั้นแม่ทัพ นายกอง ขึ้นไป ไม้จะดุมล้อเกวียน,ไม้แดง,ไม้งิ้วดำ ถ้าเป็นงาจะใช้งากำจัด(งาช้างตกมันหักคาต้นไม้มาแกะเพื่อเพิ่มผลทางมหาเสนห์
ถ้าเป็นเนื้องานั้นจะต้องแช่ด้วยน้ำว่านก่อน(แมลงภู่งาที่ผ่านการแช่น้ำว่าน ส่วนใหญ่งาจึงมีสีออกคล้ำ น้ำตาล หรือ ดำ) การแช่เนื้อด้วยน้ำว่านก่อนนั้น คือ เพื่อ
1.เพื่อเพิ่มฤทธีทางด้านมหาเสน่ห์
2.เพื่อให้งานั้นอ่อนตัวแกะได้ง่าย ไม่แตกหัก)มาทำการแกะสลักแมลงภู่อย่างวิจิตรงดงามประดุจดั่งแมลงมีชีวิตจริงโดยแมลงภู่จะมีการแกะตั้งแต่ขนาดตัวเล็ก(ตัวลูก)ไปจนถึงตัวใหญ่(ตัวจ่าฝูง )หรือตัวครู
>>>>การปลุกเสกตามราดั้งเดิมกล่าวกันว่า จะต้องเสกจนแมลงภู่ สามารถบินได้และกินปรอทได้จึงจะสำเร็จ
คนทำต้องมีเชื้อเจ้าด้วย ด้านในอุดด้วยปรอท เขย่าดังกิ๊กๆ กว่าได้ทำได้ก็รอกันเป็นปีค่ะเก่าตามตำรา
พุทธคุณมีมากหลายอย่างเลย เมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม เมตตาค้าขาย ดีด้านโภคทรัพย์ด้วย
มีพลังด้านคุ้มครอง กันภูตผีปีศาจได้ กันคุณไสยได้ เดินทางก็คุ้มครองให้ปลอดภัยได้ มีรังสีหลายสีมากสลับหมุนเวียนกันไป
ปกติแมลงภู่ตอมดอกไม้ดอกใดพวกแมลงต่างรวมทั้งผึ้งต้องหลบหนีไปเลย
เพราะเขาเป็นใหญ่กว่าหมู่ภมรทั้งหลาย แมลงภู่คำสามารถเจาะแก่นไม้แข็งๆได้อย่างสบาย
ครูบาอาจารย์จึงเอาเป็นเคล็ดว่าต่อให้หญิงใจแข็งสักเท่าไรก็มิอาจต้านทานแมลงภู่คำนี้ได้
จัดว่าเป็นเครื่องรางที่มีดีครบทุกอย่างจริงๆ สามารถเตือนภัยให้เจ่าของได้ด้วย อาจสั่นหรือลางสังหรณ์บอกก่อนล่วงหน้า
โชคลาภก็มีครบ ใช้ได้เลย
|