พระหล่อโบราณเนื้อทองผสม ปรก 5 หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี

หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่เชี่ยวชาญในการเล่นแร่แปรธาตุ นิยมสร้างวัตถุมงคล ด้วยเนื้อโลหะผสม กลายเป็นวัตถุมงคลยอดนิยม ที่มีราคาเช่าบูชาไม่แพง แต่พุทธคุณยอดเยี่ยม โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดปลอดภัย, คงกระพันชาตรี พระเครื่องที่มีชื่อเสียงของหลวงพ่อโบ้ย คือ พระเหรียญหล่อเนื้อโลหะผสม หล่อโบราณพิมพ์ต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีราคาเช่าบูชากันค่อนข้างสูง ทำให้มีของปลอมเลียนแบบมาก นอกจากนี้ พระพิมพ์อีกแบบที่ท่านได้สร้างไว้ คือ พระพิมพ์รูปเหมือนของท่าน สร้างขึ้นประมาณปี 2500 หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว เริ่มสร้างวัตถุมงคล ในราวปี พ.ศ.2473 เป็นพระเนื้อโลหะผสม เช่น โตก ขันลงหิน เชี่ยนหมาก เป็นต้น ดังนั้น พระเหรียญหล่อของหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว บางครั้งจึงมีสีไม่ค่อยเหมือนกัน หลวงพ่อโบ้ย ประกอบพิธีเทหล่อวัตถุมงคลกันภายใน วัดมะนาว ตอนที่สร้างวัตถุมงคล ท่านไม่ได้จำวัดตลอดทั้งคืน เทหล่อจนใกล้รุ่งสาง ใช้ตะไบแต่งริมขอบทุกองค์ รอยตะไบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่ง หลังจากฉันเพลแล้ว หลวงพ่อโบ้ยท่านจะนำวัตถุมงคลเข้ากุฏิทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง เป็นเสร็จพิธี ในปี พ.ศ.2479 หลวงพ่อโบ้ยท่านเริ่มสร้างพระเนื้อดินเผา ในปี พ.ศ.2500 ท่านสร้างพระเนื้อชานหมาก เป็นรูปท่าน เหรียญของหลวงพ่อโบ้ย สร้างในปี พ.ศ.2508 คือ เหรียญสี่เหลี่ยมตัดมุม และเหรียญกลมนั่งเต็มองค์ สร้างเมื่อคราวผูกพัทธสีมา ส่วนเหรียญกลมครึ่งองค์ นั้นสร้างในคราวฌาปนกิจหลวงพ่อ วัตถุมงคลหลวงพ่อโบ้ย มีประสบการณ์มากมาย เล่าลือกันว่า เคยมีคนโดนยิงตกน้ำยังไม่เข้า มีเพียงแต่รอยไหม้เท่านั้น และอีกรายยิงต่อสู้กับโจรปล้นบ้าน ถูกยิงอย่างแรงจนหงายหลัง แต่กระสุนปืนไม่ระคายผิว ชาวสุพรรณฯ ต่างโจษขานเรื่องนี้กันไปทั่ว ชาติภูมิ หลวงพ่อโบ้ย เป็นชาวบ้านสามหมื่น อ.บางปลาม้า เกิดเมื่อปี พ.ศ.2435 เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดมะนาว ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ฉายาของท่านไม่มีหลักฐานระบุไว้ หลวงพ่อโบ้ยท่านได้ศึกษาพระธรรม และจำพรรษาอยู่ที่วัดมะนาว ราว 3 พรรษา จึงได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านพระธรรมวินัยและอักขระขอม ที่วัดชีปะขาว (วัดศรีสุดาราม) เขตธนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2459 จากนั้นได้ศึกษาต่อด้านวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดอมรินทร์โฆสิตาราม เป็นเวลา 8-9 ปี จึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดมะนาว ในปี พ.ศ.2466 และในปีถัดมาจึงได้มีโอกาสไปศึกษาต่อวิชาวิปัสนากัมมัฏฐานกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 1 พรรษา จึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดมะนาวต่อไป หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาวเป็นพระที่ถือ สมถะ ไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ได้รับกิจนิมนต์โปรดญาติโยม ไปสวดมนต์ ไม่ว่าที่ใด หากญาติโยมถวายเงินปัจจัยเป็นจำนวนมากๆ ท่านจะไม่ยอมรับไว้ วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาวท่านที่ทำเป็นประจำ คือ ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสี่ทุกวัน และทำวัตรสวดมนต์ จนกระทั่งรุ่งเช้า จึงออกไปบิณฑบาต เมื่อกลับมาถึงวัด ท่านจะนิมนต์พระทุกรูปในวัดยืนเข้าแถว แล้วจะตักข้าวในบาตรของท่านถวายแด่พระทุกรูป เป็นเช่นนี้ประจำอยู่ทุกวัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับการจัดสร้างวัตถุมงคลแจกเพียงอย่างเดียว โดยไม่ยอมรับปัจจัยเด็ดขาด นับได้ว่า หลวงพ่อโบ้ยท่านเป็นผู้สละแล้วซึ่งทุกสิ่ง หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2508

ใจร้อนโทร 084-1779075