เครื่องรางของขลัง
ตะกรุดมหาระงับพิสดาร ลงรักปิดทอง ยุคต้น
ตะกรุดมหาระงับธรรมดา และมหาระงับพิสดาร สร้างตามตำรับเดิมของวัดประดู่ทรงธรรม 12 นิ้ว ประวัติความเป็นมาของตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร พระยันต์นี้ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยต้นตำหรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว พระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสี ได้ผูกพระยันต์เป็นตะกรุดถวายสมเด็จพระนเรศวร สะพายคู่พระวรกายออกศึก ชนะทัพหงสาวดี ที่ทุ่งหนองสาหร่าย ตำหรับวิทยาการต่างๆ ตกทอดจากอดีต ถูกเก็บรักษาไว้ ณ วัดประดู่ทรงธรรม จวบจนกระทั่ง พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม สิริปญโญ) ได้จัดทำจนเป็นที่โด่งดังเลื่องลือมาแล้วในอดีต มนต์มหาระงับ (ย่อ) ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า..."พุทธังศัตรูร้าย นะจังงัง ถอยอย่า นะละสัง พระพุทธังปิด พระธังมังปิด พระสังฆังปิด พระเจ้าแผลงฤทธิ์ ปิดสังวาลชั้น9" // อิทธิฤทธิ์ และอานุภาพของยันต์ =>> ยันต์นี้วิเศษยิ่งนัก เป็นมหาจังงัง มหาระงับแก่คนทั้งหลาย ป้องกันอันตรายทุกอย่าง ยิง ฟัน แทง ไม่เข้า หากมีสมาธิจิตที่แน่วแน่จริงๆ ท่านว่าสามารถทำให้หายตัวได้ // คาถาสำหรับปลุกเสกยันต์ตะกรุดมหาระงับ (สวด ๑๐๘ จบ) "นะ ปิดตา โม ปิดใจ พุท ปิดปาก ธา ปิดหู ยะ หลับนิ่งอยู่ฯ // อิติปาระมิตาติงสา ระงับอินทา อะติสัพพัญญูมาคะตา ระงับพรัหมา อิติโพธิมะนุปปัตโต ระงับมะนุสสา อิติปิโสจะเตนะโม ระงับทิสาฯ // อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิสัมระโล ปุสัตพุท โสมาณะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันทู ทัมวะคะวาโธโนอะมะมะวา อะวิสุนุสานุติฯ // นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ ปะระมัง ภะคะวา มะอะอุ ภะคะวา นะมะพะทะ จะภะกะสะฯ" // ประวัติหลวงพ่อเทียม =>> เมื่ออุปสมบทแล้ว “หลวงพ่อเทียม สิริปัญโญ” ก็ได้ไปจำพรรษาตามวัดต่าง ๆ เพื่อศึกษา “พระปริยัติธรรม” พร้อม “วิทยาคม” // โดยเฉพาะ “ตำรับพิชัยสงคราม” อันเป็นตำราว่าด้วย “การมีชัยชนะในการสงคราม” ของ “สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว” ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของกษัตริย์ยอดนักรบไทย “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และ “ตำรับมหาระงับแบบพิสดาร” อันเป็นต้นตำรับเดิมของ “วัดประดู่ทรง ธรรม” ที่สืบมาแต่ครั้งกรุงเก่าโดยมี “สมเด็จพระพน รัต” ทรงเป็นปฐมบูรพาจารย์ // นอกจากนี้ “หลวงปู่เทียม” ยังมีความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระซึ่งสมณศักดิ์ที่ “พระวิสุทธาจารเถร” แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระของท่านเป็นอย่างดีดังจะเห็นได้ว่า “วัตถุมงคล” ที่ท่านสร้างและปลุกเสกเองมีพุทธานุภาพทางด้าน เมตตามหานิยม, แคล้วคลาด, คงกระพันชาตรีครบสูตรเป็นที่เลื่องลือมาช้านาน // ***** ชื่อเสียงของท่านเลื่องลือมาก โดยเฉพาะในปี 2506 ในพิธีหล่อพระที่ “วัดประสาทบุญญาวาส” จัดสร้างพร้อมนำ “แผ่นจารอักขระ” ของ “คณาจารย์จากทั่วประเทศ” มาหล่อหลอมด้วยไฟแรงสูงเพื่อเทหล่อสร้างพระของวัดประสาทฯ ปรากฏว่า “แผ่นจารอักขระ” ของคณาจารย์อื่น ๆ ล้วนหลอมละลายหมดยกเว้นของ “หลวงปู่เทียม” เท่านั้นที่ไม่ยอมหลอมละลายเลยจึงสร้างความ “อัศจรรย์ใจ” ให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นทั่วหน้า ***** // <<< ทูลเกล้าฯถวายตะกรุด >>> ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราช กุศลถวายผ้ากฐินส่วนพระองค์ ณ วัดศีลขันธาราม ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2517 // ท่านจึงมอบให้พระสำรวย ฐิตปุญโญ รองเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช นำรูปจำลองของท่านพร้อมด้วยตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร ลงตามตำรับเดิมของ วัดประดู่ทรงธรรม เป็นโลหะตะกั่วถักด้วยด้ายและลงรักปิดทอง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ยาม 12 นิ้ว ขึ้นทูลเกล้าถวายแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว // โดยมีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายด้วยตนเองไม่ได้ เนื่องจากอาพาธด้วยโรคอัมพาตดังกล่าวแล้ว // <<< มรณภาพ >>> เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อละสังขาร ด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 75 ปี 55 พรรษา เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 จึงจัดให้มีการพระราชทานเพลิงศพ พระวิสุทธาจารเถร
|