พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
โชว์พระเกจิอาจารย์ทั่วไป

เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม


เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม


เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม

   
 

เสื้อยันต์วิรุณจำบัง ของหลวงพ่อคง  วัดบางกระพ้อม

     เสื้อยันต์นี้เดิมเรียกว่า เสื้อแคล้วคลาด แต่นักนิยมเครื่องรางของขลังเรียกว่า"เสื้อยันต์วิรุณจำบัง"เดิมหลวงพ่อคงท่านได้สร้างเสื้อยันต์ชนิดพิเศษให้กับศิษย์ของท่านชื่อว่า แกละเป็นตัวแรก โดยให้นำติดตัวรับใช้ประเทศชาติ ในการเป็นทหารแต่ภายหลังศิษย์ของท่าน ได้กลับกลายเป็นเสือปล้นนามกระฉ่อน แห่งแม่กลอง กล่าวกันว่าเมื่อเข้าปล้นครั้งใดก็ใส่เสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงทุกครั้ง ยิงต่อสู้กับเจ้าทรัพย์ลูกปืนแตกราวกับห่าฝน แต่ไม่อาจต้องตัวเขาได้ มีบางครั้งตำรวจรู้แกวยกกำลังมาล้อมตลบหลัง เสือแกละก็กลัดกระดุมเสื้อยันต์เม็ดบนสุด เดินสวนกับตำรวจชนิดจังหน้าผ่าวงล้อมตำรวจ ซึ่งไม่มีสักนายที่จะมองเห็น ต่อมาหลวงพ่อคงรู้สึกเสียใจที่ได้สร้างเสื้อยันต์ให้กับเสือแกละ โดยมิได้ตั้งข้อห้ามหรือให้สัตย์สาบาน จึงเรียกเสือแกละมาพบ และสุดท้ายเสือแกละก็สาบานเลิกปล้นคืนเสื้อยันต์ให้กับหลวงพ่อและกลับตัวเป็นคนดีหายจากแม่กลองไปนับแต่บัดนั้น

          เมื่อข่าวอภินิหารเสื้อยันต์หลวงพ่อกระจายกันออกไปบรรดาศิษย์ของท่านจึงเรียกเสื้อยันต์นี้ว่า วิรุณจำบัง วิรุณจำบัง เป็นชื่อของยักษ์ที่เป็นญาติของทศกรรณฐ์ มารบกับพระรามและไม่อาจทานอำนาจของพระรามได้ จึงแปลงตัวเป็นไรน้ำ  ไปเกาะอยู่ในฟองคลื่นในมหาสมุทร หนุมานต้องเนรมิตกายแล้วเอาหางกวนมหาสมุทรจับตัววิรุณจำบังสำเร็จโทษในที่สุด ชื่อของวิรุณจำบังจึงเหมาะสมกับเสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงเป็นอย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้างเสื้อยันต์

            ครั้นเมื่อหลวงพ่อคงเสร็จเรื่องราวเกี่ยวกับศิษย์ผู้กลายเป็นเสือแล้ว ท่านก็ปรารภกับกรรมการวัดตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า จะเลิกสร้างเสื้อยันต์เพราะหากตกอยู่กับมือคนร้ายใจอกุศลแล้วละก็ จะลำบากในการปราบปรามเป็นอันมาก แต่บรรดาคนเหล่านั้นตลอดจนศิษย์รุ่นใหญ่ได้กราบขอร้องว่า หากไม่สร้างแล้วศิษย์รุ่นหลังจะเสียใจ ขอให้ได้เลือกผู้ที่จะประสิทธิ์ให้ก็แล้วกัน หลวงพ่อจึงมีข้อแม้ว่า ใครจะให้ท่านสร้างเสื้อยันต์นี้ให้จะต้องสาบานตนและเข้าพิธีทำสัตย์ปฏิญาณตนกับท่าน ว่าจะไม่เอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีหากผิดคำสาบานให้มีอันเป็นไปต่างๆนานา ถึงแก่ความตายด้วยความน่าสะพรึงกลัวเสื้อยันต์วิรุณจำบังจึงได้รับการสร้างสืบต่อมา ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

          1.ผู้ที่ต้องการเสื้อจะต้องเข้าไปกราบขอกับท่านด้วยตัวเองพร้อมทำพิธีสาบานให้เรียบร้อย ท่านอนุญาตให้แล้วจึงให้ไปทำเสื้อมาให้ท่าน

          2.ให้ไปว่าจ้างช่างตัดเสื้อทำเสื้อกั๊กไม่มีแขน เม็ดกระดุม 5 เม็ด ตามขนาดตัวผู้เป็นเจ้าของ ด้านนอกทำด้วยผ้าสีดำ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นผ้าสักหลาด ส่วนด้านในให้บุซับในด้วยผ้าต่วนสีขาวหรือผ้าขาวให้เรียบร้อย

         3.เมื่อได้เสื้อกั๊กมาแล้วก็ให้นำมามอบให้ท่านเพื่อทำพิธีลงเลขยันต์ ท่านจะหาฤกษ์หายามดีตามกรรมวิธีของท่าน กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งๆจะมีเสื้อเป็นจำนวนนับสิบๆตัว รอให้หลวงพ่อลง ท่านจะลงด้วยหมึกจีนสีดำด้านในเสื้อเป็นอักขระว่า

นะโมพุทธายะ  พระเจ้าห้าพระองค์

จะภะกะสะ  หัวใจกรณี

อะสังวิสุโลปุสะภุพะ  นวหรคุณหรือพระพุทธคุณนามเก้า

กะระมะทะ  หัวใจสี่เกลอ

อิติอุนินะมามิหัง  หัวใจคุ้มครองป้องกันสารพัด

เสริมด้วยนะปิดล้อม  มหาอุดและกำบังตา

         การวางยันต์ของท่านสวยงามมากและมีตำแหน่งที่ไม่ค่อยจะคงที่นัก คงจะเนื่องด้วยความสะดวกในการลงของท่านนั่นเอง เมื่อเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สอง เสื้อยันต์ของท่านก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ท่านได้ครอบให้ศิษย์ช่วยกันลงเพื่อความรวดเร็ว และได้เพิ่มยันต์เกราะแก้วว่า     พุทธัง เพชรคงคัง  อิมังพันธนังอธิษฐานมิ เข้าไปด้วย ท่านบอกว่าเพื่อกันระเบิด

         เมื่อท่านลงได้ครบสูตรสำเร็จแล้วจะทำพิธีสอดกระดุมด้วยการกลัดกระดุมจากเม็ดล่างไปหาเม็ดบนภาวนาไปทีละเม็ดๆจนถึงเม็ดบนสุดจึงจะว่า คาถามหากำบังแล้วกลัดกระดุมเข้าที่นำมาปลุกเสกรวมอีกทีหนึ่ง    เพื่อป้องกันการสับสนท่านได้ให้เจ้าของเสื้อใช้ดินสอดำเขียนชื่อของตนเอาไว้ด้วย  

 
     
โดย : toi   [Feedback +0 -0] [+0 -0]   Mon 9, Aug 2010 23:50:11
 








 

วิธีการใช้

         เสื้อยันต์วิรุณจำบังนี้ ให้อาราธนาด้วยการตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์ จนถึงคุณพ่อวัดบางกระพ้อมเป็นที่ตั้งขอให้มาช่วยประสิทธิประสาทความเข้มขลังให้กับเสื้อยันต์ การกลัดกระดุมให้กลัดจากเม็ดล่างสุดขึ้นมา อย่ากลัดจากบนไปหาล่าง กลัดกระดุมเม็ดหนึ่งให้ว่าคาถาว่า นะโมพุทธายะ ครั้งหนึ่ง เมื่อจะไปไหนมาไหนให้ติดกระดุมเพียงสี่เม็ด เว้นเม็ดบนสุดเอาไว้  เมื่อจะเข้ารณรงค์สงครามก็ให้ระลึกถึงหลวงพ่อวัดบางกระพ้อมเป็นที่ตั้ง จึงตีฝ่าเข้าไป ปืนผาหน้าไม้ธนูหอกดาบแหลนหลาวเป็นห่าฝน ไม่ตกต้องตนแม้แต่น้อย แม้จะถูกก็คงกระพันชาตรี ตีไม่แตก ท่านว่าให้มั่นใจเท่านั้นเป็นพอ  หากว่าเหลือกำลังจะต่อสู้ต้องถอยหนี ตีจากก็ระลึกถึงหลวงพ่อวัดบางกระพ้อมเป็นที่ตั้ง กลืนลมหายใจแล้วกลัดกระดุมเม็ดบนสุดเข้าที่จรลีไปเถิดคนเป็นร้อยเป็นพันหามองเห็นไม่ จะเห็นก็ต่อเมื่อไปไกลแล้ว ถึงเห็นก็หุบปากสนิทเคลื่อนไหวทายทักมีได้ เป็นมหาจังงังไปทั้งสิ้นอย่าสงสัยเลยเคยผจญเคยพบเห็นมากับตัวเอง เสื้อยันต์วิรุณจำบังนี้แขวนไว้กับบ้านกลัดกระดุมทุกเม็ดเป็นยันต์กันอัคคีภัยได้ เมื่อจะนำทางคนให้พ้นจากอันตรายให้สวมเสื้อแล้วนำอยู่หัวแถวให้ผู้ที่ตามมาเกาะเอวติดกันเป็นพวงหรือเดินตามหลังเป็นแนวเดียว คุ้มได้ถึงเก้าคน

ข้อห้าม

         ห้ามมิให้เอาไปใช้ปล้นสะดมหรือคิดการเป็นภัยต่อบ้านเมือง ไม่ให้เอาไปใช้ข่มเหงผู้อื่น หรือฉุดสตรีมาเพื่อทำอนาจาร ห้ามเป็นชู้ลูกเมียผู้อื่น ห้ามด่าแม่ กระดุมของเดิมจงหมั่นดูแลรักษาอย่าให้หายเพราะเป็นของสำคัญประจำคู่กับเสื้อยันต์

ข้อควรสังเกต

         เสื้อด้านนอกส่วนใหญ่ที่พบยุคแรกจะเป็นสักหลาดเป็นส่วนใหญ่ และลงอักขระด้วยลายมือเรียบร้อย กระดุมเท่าที่พบ มีกระดุมที่ทำคือ กระดองเต่าทะเล และกระดุมที่ทำจากเขาควายหรืองาช้าง ส่วนยุคสงครามจะพบผ้าลินินชนิดหนาสีดำเข้ามาปะปน กระดุมเป็นกระดุมเขาสัตว์ขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่มีกระดุมแป๊บและพลาสติค และลายมือที่ลงจะหยาบไม่เรียบร้อย ความหม่นเก่าทั้งด้านในและด้านนอกมีให้เห็น ของเทียมเท่าที่เห็นสักหลาดจะใหม่และมีสีอื่นนอกจากสีดำด้วย ขอให้จำให้แม่นๆว่าเสื้อยันต์วิรุณจำบังมีเพียงสีดำขาวเท่านั้น

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 1 ] Mon 9, Aug 2010 23:55:10





 

 ขอให้จำให้แม่นๆว่าเสื้อยันต์วิรุณจำบัง ของหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อม มีเพียงสีดำขาวเท่านั้น  ข้อมูลจากหนังสือนะโมเล่มเก่าๆและคนท้องที่ ที่ได้รับเสื้อยันต์วิรุณจำบังตัวนี้เป็นมรดกตกทอดกันมาถึงสามรุ่น ตั้งแต่ปู่รับมาจากมือหลวงพ่อคงสมัยสงคราม ตกถึงพ่อและลูกครับ ลูกอายุได้เกือบ 50 ปีแล้วครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 2 ] Tue 10, Aug 2010 00:08:13





 

ความสำคัญของ จะภะกะสะ หัวใจกรณี ที่ลงไว้ในขมวดยันต์เสื้อยันต์วิรุณจำบังหลวงพ่อคง ผมเอามาลงให้ดูบทหนึ่งครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 3 ] Tue 10, Aug 2010 00:21:12









 

ยันต์สามเหลี่ยมหัวท้าย ยันต์เกราะแก้วครับ

ใต้ยันต์สามเหลี่ยมทั้งสองข้างเป็น อิติชัยยะ ใต้อิติชัยยะ เป็น นะปิดล้อมครับ  ใต้นะปิดล้อมเป็น อุตตะ ครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 4 ] Tue 10, Aug 2010 00:52:31









 

แบ่งกันดูของแท้ๆครับ เสื้อขาวนี้เป็นแบบที่ทางวัดทำแจกเองสมัยสงครามครับ

ยันต์เกราะแก้วว่า

พุทธัง เพชรคังคํ   ธัมมัง เพชรคังคํ   สังฆัง เพชรคังคํ  พันธนังอธิษฐามิ

ผมว่าอ่านว่า เพชรคังคัง ถึงจะถูกครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 5 ] Tue 10, Aug 2010 01:07:42





 

ส่วนพันธนังอธิษฐามินั้น ผมต้องขอสงวนสิทธิ์อุบไว้ก่อนครับ เพราะเกรงว่าพวกมือผีจะเอาไปจารเลียนแบบขายครับ เพราะเท่าที่เห็นของเก๊มา จะจารกันไม่ถูกครับ

ภาพนี้เป็น อุตตะ นะปิดล้อม อุตตะ

ล่างเป็นนวหรคุณ อะสังวิสุเลา  ปุสะภุพะ ต่อลงไปอยู่ข้างซ้ายครับ  

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 6 ] Tue 10, Aug 2010 01:18:05





 

ผมพิมพ์โล เป็น เลายังกับจะเขียนตัวขอมแนะ ต้องเป็น อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ถึงจะถูกต้องนะครับ งวงนอนแล้วขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่นะครับ

ภาพนี้เป็นด้านล่างครับ เป็น อะสังวิสุโล ส่วนปุสะพุภะต่อขึ้นไปทางด้านขวาครับ    

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 7 ] Tue 10, Aug 2010 01:29:50

 

ขอบคุณในความรู้ครับป๋า

 
โดย : korawit_kj    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 8 ] Tue 10, Aug 2010 08:01:38

 

ผมเข้าไปหาความรู้เกี่ยวกับเสื้อสันต์ วิรุณจำบังของหลวงพ่อคง ในอินเตอร์เน็ท ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเลย  ยิ่งตัวขอมสะกดอย่างไรบ้าง ยิ่งไม่ได้เลย เพราะถ่ายภาพเล็กและไม่ชัดครับ ขอคุณครับผม

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 9 ] Tue 10, Aug 2010 09:44:09









 

พุทธัง เพชรคังคัง เสื้อยันต์วิรุณจำบังของหลวงพ่อคง จะเขียนมือด้วยปากกาคอแร้ง ใช้หมึกจีนสีดำครับ ซึ่งหาง่ายใช้เป็นหมึกสักยันต์ได้ด้วยครับ

ภาพล่าง คนแต่ก่อนเขาจะใช้ปากกาคอแร้งเขียนหนังสือครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 10 ] Tue 10, Aug 2010 10:33:30





 

อุปเท่ห์และวิธีการใช้ นวหรคุณ หรือ พระพุทธคุณนามเก้า

อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ที่ลงไว้ในเสื้อยันต์หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อมครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 11 ] Tue 10, Aug 2010 10:50:34





 

ส่วนพระคาถาหัวใจ สี่เกลอ ที่ลงไว้ในเสื้อยันต์นี้ว่า

กะระมะทะ

       พระคาถานี้บางฉบับเรียกว่า หัวใจพระกัสสป ใช้ได้หลายประการ ทางคงกระพันให้เสกพลิกไทยกิน เสกขมิ้นกินก็ได้ เสกเหล้ากินก็ได้ ถ้าจะมัดผีให้ใช้คาถานี้มัดไปมิได้แล เวลาจะใช้ทางคงกระพัน ท่านให้ถอดเป็นดังนี้ กะระมะทะ กิริมิทิ กุรุมุทุ เกเรเมเท ให้เสกด้วยคาถานี้คงทนดีนักแล ฯ

      

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 12 ] Tue 10, Aug 2010 11:07:37

 
ได้ความรู้อีกแล้วครับ ขอบคุณครับ
 
โดย : บำรุงสุข    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 13 ] Tue 10, Aug 2010 15:49:22

 

แจมครับอาจารย์

 
โดย : บำรุงสุข    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 14 ] Tue 10, Aug 2010 16:00:23

 

 

ขอบคุณครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 15 ] Tue 10, Aug 2010 19:29:46









 

แบบนี้เป็นแบบ เสื้อกั๊กไม่มีแขนสองชั้นครับ

ข้อควรสังเกต

         เสื้อด้านนอกส่วนใหญ่ที่พบยุคแรกจะเป็นสักหลาดเป็นส่วนใหญ่ และลงอักขระด้วยลายมือเรียบร้อย กระดุมเท่าที่พบ มีกระดุมที่ทำคือ กระดองเต่าทะเล และกระดุมที่ทำจากเขาควายหรืองาช้าง ส่วนยุคสงครามจะพบผ้าลินินชนิดหนาสีดำเข้ามาปะปน กระดุมเป็นกระดุมเขาสัตว์ขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่มีกระดุมแป๊บและพลาสติค และลายมือที่ลงจะหยาบไม่เรียบร้อย ความหม่นเก่าทั้งด้านในและด้านนอกมีให้เห็น ของเทียมเท่าที่เห็นสักหลาดจะใหม่และมีสีอื่นนอกจากสีดำด้วย ขอให้จำให้แม่นๆว่าเสื้อยันต์วิรุณจำบังมีเพียงสีดำขาวเท่านั้น

 ข้างนอกจะเป็นผ้าสักหลาดสีดำ

 ข้างนอกจะเป็นผ้าสักหลาดสีดำ

ข้างในเป็นผ้าต่วนสีขาว

ติดกระดุม 5 เม็ด  

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 16 ] Tue 10, Aug 2010 19:44:00





 
 
โดย : ปลาโลมา    [Feedback +1 -0] [+1 -0]   [ 17 ] Tue 10, Aug 2010 22:38:07

 

เรามาเรียนรอบสองครับป๋า ขอบคุณครับ

 
โดย : korawit_kj    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 18 ] Tue 10, Aug 2010 23:02:48

 

สุดยอดเลยครับป๋าต๋อย

 
โดย : แหร่มเลย    [Feedback +1 -0] [+0 -0]   [ 19 ] Wed 11, Aug 2010 14:06:42

 

เรามาเรียนรอบสองครับป๋า ขอบคุณครับ

รู้ไว้ก็ดีครับ เผื่อไปเจอที่ไหนจะได้ตัดสินใจได้ว่าควรเอาหรือไม่ดีครับ จะได้ไม่เสียใจ เสียตังค์เหมือนผม กว่าจะเจอของแท้ก็โดนของเก๊เข้าไปก่อนแล้วครับ ขอบคุณครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 20 ] Wed 11, Aug 2010 19:02:13

 

สุดยอดเลยครับป๋าต๋อย

 

ขอบคุณทุกท่านนะครับ

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 21 ] Wed 11, Aug 2010 19:06:31

 

 

hs.graphicsDir = 'ajax/highslide/graphics/'; hs.outlineType = 'rounded-white'; hs.wrapperClassName = 'draggable-header'; hs.showCredits = false; var rstr; rstr=Math.random(); function offComment(commentID,Num,topicID){ if(commentID=="") return; var conDel; conDel = confirm("ต้องการปิดข้อคิดเห็น "+Num+" หรือไม่?"); if(conDel==false) return; window.location = "boardpage.php?topicid="+topicID+"&commentid="+commentID+"&mode=off&var="+rstr; } function onComment(commentID,Num,topicID){ if(commentID=="") return; var conDel; conDel = confirm("ต้องการเปิดข้อคิดเห็น "+Num+" หรือไม่?"); if(conDel==false) return; window.location = "boardpage.php?topicid="+topicID+"&commentid="+commentID+"&mode=on&var="+rstr; }

โชว์พระเกจิอาจารย์ทั่วไป

เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม


เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม


เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม


         

 

เสื้อยันต์วิรุณจำบัง ของหลวงพ่อคง  วัดบางกระพ้อม

     เสื้อยันต์นี้เดิมเรียกว่า เสื้อแคล้วคลาด แต่นักนิยมเครื่องรางของขลังเรียกว่า"เสื้อยันต์วิรุณจำบัง"เดิมหลวงพ่อคงท่านได้สร้างเสื้อยันต์ชนิดพิเศษให้กับศิษย์ของท่านชื่อว่า แกละเป็นตัวแรก โดยให้นำติดตัวรับใช้ประเทศชาติ ในการเป็นทหารแต่ภายหลังศิษย์ของท่าน ได้กลับกลายเป็นเสือปล้นนามกระฉ่อน แห่งแม่กลอง กล่าวกันว่าเมื่อเข้าปล้นครั้งใดก็ใส่เสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงทุกครั้ง ยิงต่อสู้กับเจ้าทรัพย์ลูกปืนแตกราวกับห่าฝน แต่ไม่อาจต้องตัวเขาได้ มีบางครั้งตำรวจรู้แกวยกกำลังมาล้อมตลบหลัง เสือแกละก็กลัดกระดุมเสื้อยันต์เม็ดบนสุด เดินสวนกับตำรวจชนิดจังหน้าผ่าวงล้อมตำรวจ ซึ่งไม่มีสักนายที่จะมองเห็น ต่อมาหลวงพ่อคงรู้สึกเสียใจที่ได้สร้างเสื้อยันต์ให้กับเสือแกละ โดยมิได้ตั้งข้อห้ามหรือให้สัตย์สาบาน จึงเรียกเสือแกละมาพบ และสุดท้ายเสือแกละก็สาบานเลิกปล้นคืนเสื้อยันต์ให้กับหลวงพ่อและกลับตัวเป็นคนดีหายจากแม่กลองไปนับแต่บัดนั้น

          เมื่อข่าวอภินิหารเสื้อยันต์หลวงพ่อกระจายกันออกไปบรรดาศิษย์ของท่านจึงเรียกเสื้อยันต์นี้ว่า วิรุณจำบัง วิรุณจำบัง เป็นชื่อของยักษ์ที่เป็นญาติของทศกรรณฐ์ มารบกับพระรามและไม่อาจทานอำนาจของพระรามได้ จึงแปลงตัวเป็นไรน้ำ  ไปเกาะอยู่ในฟองคลื่นในมหาสมุทร หนุมานต้องเนรมิตกายแล้วเอาหางกวนมหาสมุทรจับตัววิรุณจำบังสำเร็จโทษในที่สุด ชื่อของวิรุณจำบังจึงเหมาะสมกับเสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงเป็นอย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้างเสื้อยันต์

            ครั้นเมื่อหลวงพ่อคงเสร็จเรื่องราวเกี่ยวกับศิษย์ผู้กลายเป็นเสือแล้ว ท่านก็ปรารภกับกรรมการวัดตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า จะเลิกสร้างเสื้อยันต์เพราะหากตกอยู่กับมือคนร้ายใจอกุศลแล้วละก็ จะลำบากในการปราบปรามเป็นอันมาก แต่บรรดาคนเหล่านั้นตลอดจนศิษย์รุ่นใหญ่ได้กราบขอร้องว่า หากไม่สร้างแล้วศิษย์รุ่นหลังจะเสียใจ ขอให้ได้เลือกผู้ที่จะประสิทธิ์ให้ก็แล้วกัน หลวงพ่อจึงมีข้อแม้ว่า ใครจะให้ท่านสร้างเสื้อยันต์นี้ให้จะต้องสาบานตนและเข้าพิธีทำสัตย์ปฏิญาณตนกับท่าน ว่าจะไม่เอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีหากผิดคำสาบานให้มีอันเป็นไปต่างๆนานา ถึงแก่ความตายด้วยความน่าสะพรึงกลัวเสื้อยันต์วิรุณจำบังจึงได้รับการสร้างสืบต่อมา ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

          1.ผู้ที่ต้องการเสื้อจะต้องเข้าไปกราบขอกับท่านด้วยตัวเองพร้อมทำพิธีสาบานให้เรียบร้อย ท่านอนุญาตให้แล้วจึงให้ไปทำเสื้อมาให้ท่าน

          2.ให้ไปว่าจ้างช่างตัดเสื้อทำเสื้อกั๊กไม่มีแขน เม็ดกระดุม 5 เม็ด ตามขนาดตัวผู้เป็นเจ้าของ ด้านนอกทำด้วยผ้าสีดำ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นผ้าสักหลาด ส่วนด้านในให้บุซับในด้วยผ้าต่วนสีขาวหรือผ้าขาวให้เรียบร้อย

         3.เมื่อได้เสื้อกั๊กมาแล้วก็ให้นำมามอบให้ท่านเพื่อทำพิธีลงเลขยันต์ ท่านจะหาฤกษ์หายามดีตามกรรมวิธีของท่าน กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งๆจะมีเสื้อเป็นจำนวนนับสิบๆตัว รอให้หลวงพ่อลง ท่านจะลงด้วยหมึกจีนสีดำ ด้านในเสื้อเป็นอักขระว่า

นะโมพุทธายะ  พระเจ้าห้าพระองค์

จะภะกะสะ  หัวใจกรณี

อะสังวิสุโลปุสะภุพะ  นวหรคุณหรือพระพุทธคุณนามเก้า

กะระมะทะ  หัวใจสี่เกลอ

อิติอุนินะมามิหัง  หัวใจคุ้มครองป้องกันสารพัด

เสริมด้วยนะปิดล้อม  มหาอุดและกำบังตา

         การวางยันต์ของท่านสวยงามมากและมีตำแหน่งที่ไม่ค่อยจะคงที่นัก คงจะเนื่องด้วยความสะดวกในการลงของท่านนั่นเอง เมื่อเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สอง เสื้อยันต์ของท่านก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ท่านได้ครอบให้ศิษย์ช่วยกันลงเพื่อความรวดเร็ว และได้เพิ่มยันต์เกราะแก้วว่า     พุทธัง เพชรคงคัง  อิมังพันธนังอธิษฐานมิ เข้าไปด้วย ท่านบอกว่าเพื่อกันระเบิด

         เมื่อท่านลงได้ครบสูตรสำเร็จแล้วจะทำพิธีสอดกระดุมด้วยการกลัดกระดุมจากเม็ดล่างไปหาเม็ดบนภาวนาไปทีละเม็ดๆจนถึงเม็ดบนสุดจึงจะว่า คาถามหากำบังแล้วกลัดกระดุมเข้าที่นำมาปลุกเสกรวมอีกทีหนึ่ง    เพื่อป้องกันการสับสนท่านได้ให้เจ้าของเสื้อใช้ดินสอดำเขียนชื่อของตนเอาไว้ด้วย  

 

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 22 ] Sun 6, Jan 2013 22:37:48





 
 

 

 

เสื้อยันต์วิรุณจำบัง ของหลวงพ่อคง  วัดบางกระพ้อม

     เสื้อยันต์นี้เดิมเรียกว่า เสื้อแคล้วคลาด แต่นักนิยมเครื่องรางของขลังเรียกว่า"เสื้อยันต์วิรุณจำบัง"เดิมหลวงพ่อคงท่านได้สร้างเสื้อยันต์ชนิดพิเศษให้กับศิษย์ของท่านชื่อว่า แกละเป็นตัวแรก โดยให้นำติดตัวรับใช้ประเทศชาติ ในการเป็นทหารแต่ภายหลังศิษย์ของท่าน ได้กลับกลายเป็นเสือปล้นนามกระฉ่อน แห่งแม่กลอง กล่าวกันว่าเมื่อเข้าปล้นครั้งใดก็ใส่เสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงทุกครั้ง ยิงต่อสู้กับเจ้าทรัพย์ลูกปืนแตกราวกับห่าฝน แต่ไม่อาจต้องตัวเขาได้ มีบางครั้งตำรวจรู้แกวยกกำลังมาล้อมตลบหลัง เสือแกละก็กลัดกระดุมเสื้อยันต์เม็ดบนสุด เดินสวนกับตำรวจชนิดจังหน้าผ่าวงล้อมตำรวจ ซึ่งไม่มีสักนายที่จะมองเห็น ต่อมาหลวงพ่อคงรู้สึกเสียใจที่ได้สร้างเสื้อยันต์ให้กับเสือแกละ โดยมิได้ตั้งข้อห้ามหรือให้สัตย์สาบาน จึงเรียกเสือแกละมาพบ และสุดท้ายเสือแกละก็สาบานเลิกปล้นคืนเสื้อยันต์ให้กับหลวงพ่อและกลับตัวเป็นคนดีหายจากแม่กลองไปนับแต่บัดนั้น

          เมื่อข่าวอภินิหารเสื้อยันต์หลวงพ่อกระจายกันออกไปบรรดาศิษย์ของท่านจึงเรียกเสื้อยันต์นี้ว่า วิรุณจำบัง วิรุณจำบัง เป็นชื่อของยักษ์ที่เป็นญาติของทศกรรณฐ์ มารบกับพระรามและไม่อาจทานอำนาจของพระรามได้ จึงแปลงตัวเป็นไรน้ำ  ไปเกาะอยู่ในฟองคลื่นในมหาสมุทร หนุมานต้องเนรมิตกายแล้วเอาหางกวนมหาสมุทรจับตัววิรุณจำบังสำเร็จโทษในที่สุด ชื่อของวิรุณจำบังจึงเหมาะสมกับเสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงเป็นอย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้างเสื้อยันต์

            ครั้นเมื่อหลวงพ่อคงเสร็จเรื่องราวเกี่ยวกับศิษย์ผู้กลายเป็นเสือแล้ว ท่านก็ปรารภกับกรรมการวัดตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า จะเลิกสร้างเสื้อยันต์เพราะหากตกอยู่กับมือคนร้ายใจอกุศลแล้วละก็ จะลำบากในการปราบปรามเป็นอันมาก แต่บรรดาคนเหล่านั้นตลอดจนศิษย์รุ่นใหญ่ได้กราบขอร้องว่า หากไม่สร้างแล้วศิษย์รุ่นหลังจะเสียใจ ขอให้ได้เลือกผู้ที่จะประสิทธิ์ให้ก็แล้วกัน หลวงพ่อจึงมีข้อแม้ว่า ใครจะให้ท่านสร้างเสื้อยันต์นี้ให้จะต้องสาบานตนและเข้าพิธีทำสัตย์ปฏิญาณตนกับท่าน ว่าจะไม่เอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีหากผิดคำสาบานให้มีอันเป็นไปต่างๆนานา ถึงแก่ความตายด้วยความน่าสะพรึงกลัวเสื้อยันต์วิรุณจำบังจึงได้รับการสร้างสืบต่อมา ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

          1.ผู้ที่ต้องการเสื้อจะต้องเข้าไปกราบขอกับท่านด้วยตัวเองพร้อมทำพิธีสาบานให้เรียบร้อย ท่านอนุญาตให้แล้วจึงให้ไปทำเสื้อมาให้ท่าน

          2.ให้ไปว่าจ้างช่างตัดเสื้อทำเสื้อกั๊กไม่มีแขน เม็ดกระดุม 5 เม็ด ตามขนาดตัวผู้เป็นเจ้าของ ด้านนอกทำด้วยผ้าสีดำส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นผ้าสักหลาด ส่วนด้านในให้บุซับในด้วยผ้าต่วนสีขาวหรือผ้าขาวให้เรียบร้อย

         3.เมื่อได้เสื้อกั๊กมาแล้วก็ให้นำมามอบให้ท่านเพื่อทำพิธีลงเลขยันต์ ท่านจะหาฤกษ์หายามดีตามกรรมวิธีของท่าน กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งๆจะมีเสื้อเป็นจำนวนนับสิบๆตัว รอให้หลวงพ่อลง ท่านจะลงด้วยหมึกจีนสีดำ ด้านในเสื้อเป็นอักขระว่า

นะโมพุทธายะ  พระเจ้าห้าพระองค์

จะภะกะสะ  หัวใจกรณี

อะสังวิสุโลปุสะภุพะ  นวหรคุณหรือพระพุทธคุณนามเก้า

กะระมะทะ  หัวใจสี่เกลอ

อิติอุนินะมามิหัง  หัวใจคุ้มครองป้องกันสารพัด

เสริมด้วยนะปิดล้อม  มหาอุดและกำบังตา

         การวางยันต์ของท่านสวยงามมากและมีตำแหน่งที่ไม่ค่อยจะคงที่นัก คงจะเนื่องด้วยความสะดวกในการลงของท่านนั่นเอง เมื่อเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สอง เสื้อยันต์ของท่านก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ท่านได้ครอบให้ศิษย์ช่วยกันลงเพื่อความรวดเร็ว และได้เพิ่มยันต์เกราะแก้วว่า     พุทธัง เพชรคงคัง  อิมังพันธนังอธิษฐานมิ เข้าไปด้วย ท่านบอกว่าเพื่อกันระเบิด

         เมื่อท่านลงได้ครบสูตรสำเร็จแล้วจะทำพิธีสอดกระดุมด้วยการกลัดกระดุมจากเม็ดล่างไปหาเม็ดบนภาวนาไปทีละเม็ดๆจนถึงเม็ดบนสุดจึงจะว่า คาถามหากำบังแล้วกลัดกระดุมเข้าที่นำมาปลุกเสกรวมอีกทีหนึ่ง    เพื่อป้องกันการสับสนท่านได้ให้เจ้าของเสื้อใช้ดินสอดำเขียนชื่อของตนเอาไว้ด้วย  

 

 
โดย : toi    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 23 ] Sun 11, Aug 2013 09:51:30

 
เสื้อยันต์ วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.